ช่างภาพรับปริญญา nifotoart
หาช่างภาพรับปริญญา หาช่างภาพ หาช่างภาพถ่ายรูปรับปริญญา ถ่ายรูปรับปริญญานอกรอบ
ช่างภาพรับปริญญา หาช่างภาพรับปริญญา หาช่างภาพ หาช่างภาพถ่ายรูปรับปริญญา ถ่ายรูปรับปริญญานอกรอบ รับใบประกาศ รับเสื้อกาวน์
ช่างภาพมืออาชีพ ใจเย็น งานดี แพ็คเก็จสวย ตรงเวลา ส่งงานไว
แนะนำการถ่ายรูปรับปริญญาให้สวยได้ง่ายๆ สไตล์มือใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบัณฑิตถ่ายเองหรือให้กล้องเพื่อนมาถ่ายให้ จะถ่ายรูปรับปริญญาอย่างไรให้สวยงามออกมาคมชัด ต้องทำอย่างไร ที่นี่มีคำตอบ
ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศการรับปริญญาแล้ว อีกไม่กี่เดือนจะมีมหาลัยชั้นนำของประเทศเช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ม.ราชมงคล และอีกหลายมหาวิทยาลัยทั้งในเขตกรุงเทพและต่างจังหวัดที่จะทยอยรับปริญญา น้องๆบัณฑิตหลายคนคงกำลังเตรียมตัวหาช่างภาพรับปริญญาไว้รอช่วงเวลาสำคัญ
การรับปริญญาถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสำเร็จ ที่มีไม่บ่อยครั้งในชีวิตของคนเรา เป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง น้องๆบัณฑิตที่เรียนจบรอรับปริญญาคงรอคอยช่วงเวลานี้ เพราะงานนี้เรียกได้ว่าเป็นการรวมญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูงที่ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก และแน่นอนว่าบัณฑิตก็ต้องการเก็บภาพบรรยากาศงานรับปริญญาที่มีครอบครัว ญาติพี่น้องที่มาแสดงความยินดี อีกทั้งยังอาจเป็นการรวมตัวของเพื่อนสมัยประถม มัธยม หรือเพื่อนต่างสถาบันที่จะมาร่วมแสดงความยินดี เพื่อเก็บภาพไว้ดูเป็นที่ระลึกในความทรงจำ บัณฑิตบางคนจ้างช่างภาพมาเก็บภาพในวันงาน บัณฑิตบางคนอาจไม่จ้าง แต่ให้คนในครอบครัว ญาติพี่น้องมาถ่ายให้ แต่จะจ้างหรือไม่จ้างอย่างน้อยบัณฑิตย่อมมีกล้องส่วนตัวที่จะมาเก็บภาพความทรงจำนั้นเองก่อนที่จะได้รูปงานจากช่างภาพที่จ้างมา บางคนอาจจะใช้งานกล้องได้ ปรับค่าต่างๆได้ด้วยตัวเอง แต่ก็มีบางคนเพิ่งได้กล้องมายังไม่เข้าใจเรื่องปรับโหมดต่างๆ ซึ่งพี่จะเจอเข้ามาถามเรื่องกล้อง ให้ช่วยปรับค่าโหมดต่างๆให้ทุกงาน วันนี้เลยมาเแนะนำการใช้กล้องสไตล์มือใหม่ว่าควรปรับค่าอะไรบ้าง
ปัจจุบันกล้องดิจิตอล SLR มีราคาที่ถูกลงมาก หลายคนเลือกซื้อหาเก็บไว้ใช้งาน ซึ่งจะมีทั้งกล้องคอมแพค (Compact) กล้องมิลเลอร์เลส (Mirrorless) รวมถึงกล้องที่ช่างภาพมืออาชีพใช้รับงานคือ กล้อง DSLR แต่กระนั้นด้วยความเป็นมือใหม่ ซึ่งอาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องหลักการถ่ายภาพเท่าที่ควร ยังไม่เข้าใจระบบการทำงานของกล้องเพียงพอ ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมานั้นเบลอบ้าง เพราะโฟกัสไม่เข้าจุดที่ต้องการ ไม่สวยเท่าที่ใจอยากได้ ภาพโอเวอร์ อันเดอร์ไปจนเกินกว่าที่จะแก้ไขได้ และจะเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมากหากต้องพลาดบันทึกความทรงจำในช่วงเวลาที่สำคัญ ซึ่งอาจมาจากหลายสาเหตุ น้องๆบัณฑิตบางคนมีงบประมาณมากอาจจะจ้างช่างภาพมาถ่ายรูปรับปริญญานอกรอบให้ก่อน ป้องกันความผิดพลาดแถมได้งานดีงานสวยกับสถานที่ต่างๆในมหาวิทยาลัย แต่สำหรับบัณฑิตที่มีงบประมาณจำกัด ไม่อยากรบกวนเงินในกระเป๋าของคุณพ่อคุณแม่ละ จะทำอย่างไร หากน้องบัณฑิตมีกล้องอยู่แล้ว น้องๆบัณฑิตอาจถ่ายกันเองหรือจะเอากล้องให้เพื่อนสนิทมาถ่ายให้ก็สามารถถ่ายรูปงานรับปริญญาให้สวยออกมาดูดีได้ แต่ก่อนอื่นต้องเรียนรู้ 3 เรื่อง คือ ระบบต่างๆของกล้อง เทคนิค และการวางแผน อันดับแรกเรามารู้จักเรื่อง ของกล้องกันก่อน
กล้องถ่ายภาพก็เหมือนอุปกรณ์มือถือ ถ้าไม่ลองเล่น เข้าไปดูเมนูต่างๆ น้องๆก็อาจจะงงแน่นอนเวลาใช้งาน ลองถ่ายเล่นบ่อยๆ เข้าไปปรับดูเมนูต่างๆ น้องๆจะเข้าใจคุณสมบัติของมันอย่างครบถ้วน เวลาใช้งานจริงก็จะง่าย ข้อผิดพลาดก็จะไม่เกิดขึ้น หากน้องๆยังมึนงงกับเมนูต่างๆของกล้อง อันดับแรกที่คุณต้องทำ คือ เรียนรู้ฟังค์ชั่นเมนูต่างๆของกล้อง โดยจุดที่คุณควรสนใจในกล้องดิจิตอล SLR มีดังนี้
- โหมดถ่ายภาพต่างๆ โหมดถ่ายภาพในกล้องมีให้เลือกมากมาย เช่น โหมด P,A,S,M โหมดถ่ายภาพบุคคล Portrait โหมดถ่ายภาพ Lanscape เป็นต้น ซึ่งทางโรงงานได้โปรแกรมโหมดต่างๆ มาให้ใช้เหมาะสมกับลักษณะการถ่ายภาพแบบต่าง การเลือกโหมดถ่ายภาพควรเลือกให้เข้าประเภทที่เราต้องการ เช่น เน้นถ่ายบัณฑิตคนเดียวเลือกโหมด Portrait แต่ถ้าคุณเป็นมือใหม่จริงๆ ไม่รู้จะใช้อะไรในการถ่ายรูปรับปริญญา ก็เลือกอัตโนมัติ หรือ P ไปได้เลย ไม่ต้องคิดมาก
*ความแตกต่างนิดหน่อยระหว่างโหมด auto กับโหมด P คือโหมด auto จะยกแฟลชอัตโนมัติเมื่อเจอสถานที่มืดหรือย้อนแสง ส่วนโหมด P ทำงานเหมือน auto แต่เราสามารถปรับค่า iso กำหนดการใช้แฟลชได้เอง เผื่อกรณีบางคนไม่อยากใช้แฟลช - ระบบโฟกัส โดยหลักระบบโฟกัสแบ่งออกเป็นสองแบบคร่าวๆ คือ AF ออโต้โฟกัส และ M แมนนวลโฟกัส หรือพูดง่ายคือหมุนหาโฟกัสเอง งานถ่ายรูปรับปริญญาหรืองานทั่วไปถ่ายรูปเล่นควรเลือกเป็น AF ออโต้โฟกัส จะสะดวกกว่าแน่นอน แต่กระนั้นต้องระวังในเรื่องจุดโฟกัสด้วย ซึ่งในกล้องจะมีให้เลือกตั้งแต่ระบบโฟกัสเฉพาะจุด ไปจนถึงหลายจุด ถ้าเอาง่ายๆ ก็เลือกให้เต็มเฟรมไปเลย หากเป็นกล้องมิลเลอร์เลส หรือกล้อง DSLR ที่เปลี่ยนเลนส์ได้ต้องคอยเช็คปุ่มสวิทย์ข้างเลนส์ให้อยู่ในตำแหน่ง AF/ MA ซึ่งคือออโตโฟกัสนั่นเอง ห้ามให้อยู่ในตำแหน่ง M เด็ดขาดเพราะเลนส์จะไม่หมุนหาโฟกัสให้ ภาพที่ถ่ายมาก็จะเบลอ
- การวัดแสงโดยหลักมีอยู่ 3 ระบบ คือวัดแสงเฉพาะจุด เฉลี่ยหนักกลาง เฉลี่ยทั้งภาพ ซึ่งการวัดแสงแต่ละแบบเหมาะกับถ่ายภาพที่แตกต่างกันออกไป เช่น วัดแสงเฉพาะจุด เหมาะกับภาพที่มี contrast แตกต่างกัน ซึ่งคุณต้องวัดแสง ณ จุดใดจุดหนึ่ง เป็นต้น สำหรับการถ่ายรูปรับปริญญานั้น ถ้าคุณถ่ายบัณฑิตเดี่ยวเต็มเฟรมให้ใช้เฉลี่ยหนักกลาง แต่ถ้ารูปหมู่ ควรใช้เฉลี่ยทั้งภาพจะดีกว่า
- ISOในกล้องใช้เพื่อทำให้กล้องรับแสงได้ไวขึ้น มีประโยชน์ตอนเข้าที่มืด หรือช่วงเวลาที่แสงน้อย ซึ่งถ้าเราปรับ ISO ขึ้นสูงๆ เวลาถ่ายภาพ ภาพจะไม่สั่น ไม่เบลอ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยสิ่งที่เรียกว่า noise กระนั้นคุณไม่ต้องกังวลใจมาก เพราะกล้องรุ่นใหม่ๆ สามารถควบคุมเรื่อง noise ได้ดีมากขึ้น ซึ่งการถ่ายรูปรับปริญญา ส่วนใหญ่จะถ่ายกันในพื้นที่กลางแจ้ง ที่มีแดด ควรตั้งค่า ISO 100-200 แต่ถ้าถ่ายช่วงเช้ามืดหรือพลบค่ำ ควรดัน ISO ให้สูงกว่าปรกติ
- White Balance อธิบายง่ายๆ คือการเลือกโทนสีของภาพตามอุณหภูมิสีนั่นเอง แหล่งกำเนิดแสงในการถ่ายภาพแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันและอุณหภูมิสีแต่ละแหล่งก็แตกต่างกันด้วย ถ้าคุณตั้งค่า white balance ไม่สอดคล้องกัน ผลก็คือภาพที่ถ่ายจะมีสีเพี้ยน ในการตั้งค่าคุณควรตั้ง white balance ไว้ที่ auto ซึ่งกล้องจะทำการวิเคราะห์ค่าที่เหมาะสมให้เอง
ทริคเล็กๆป้องกันการเกิดข้อผิดพลาด หากน้องๆบัณฑิตยังไม่เข้าใจเรื่อง iso wb คือการถ่ายภาพเป็นไฟล์ Raw หรือไฟล์ข้อมูลดิบของกล้องยี่ห้อต่างๆ โดยคุณสามารถนำภาพนั้นมาปรับแก้ wb ปรับแก้เรื่องภาพโอเวอร์ อันเดอร์ได้ในโปรแกรมต่างๆ ได้ยืดหยุ่นกว่าไฟล์ JPG ทั่วไป ซึ่งสะดวกและปลอดภัยอย่างมากสำหรับมือใหม่ แม้ขนาดไฟล์จะใหญ่กว่าไฟล์ชนิดอื่น แต่ก็ช่วยให้คุณสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์สำคัญได้อย่างไม่มีตกหล่น หรือจะถ่ายควบคู่เลยทั้งไฟล์ Raw+jpeg สำหรับกล้องรุ่นที่รองรับ
เทคนิคการถ่ายภาพสำหรับมือใหม่
น้องๆบัณฑิตหลายคนคงอยากได้รูปแนวพอร์ตเทรต portrait หน้าชัดหลังเบลอ ซึ่งวิธีถ่ายก็ง่ายมาก ซึ่งมีขั้นตอนต่อไปนี้
เปิดรูรับแสงของเลนส์ให้กว้างที่สุดถ้าเป็นเลนส์คิทที่แถมมากับกล้องส่วนมากจะมีค่ารูรับแสงที่ f3.5-5.6 เลนส์กลุ่มนี้การละลายฉากหลังม่ค่อยดีเท่าไร และข้อเสียของเลนส์กลุ่มนี้คือรูรับแสงไม่คงที่ ถ้าเราปรับหมุนเลนส์กว้างสุด 18 mm รูรับแสงจะอยู่ที่ f3.5 แต่ถ้าเราปรับซูมเลนส์สุด รูรับแสงจะไปอยู่ที่ f5.6 ซึ่งการละลายฉากหลังจะทำได้ยาก เลนส์ที่เหมาะสำหรับถ่ายภาพพอร์ตเทรตคือเลนส์ฟิกที่มีค่ารูรับแสงคงที่ f1.4 f1.8 เป็นต้นซึ่งราคาก็จะแพงตามความกว้างของรูรับแสงของเลนส์ตัวนั้นๆ
ระยะของเลนส์ก็มีผลยิ่งเลนส์มีระยะทางยาวโฟกัสมาก แบบก็จะลอยเด่นออกมาจากฉากหลังมากขึ้น เช่นระยะ 85 105 135 200mm ย่อมละลายฉากหลังดีกว่าระยะ 18mm ซึ่งเลนส์ที่นิยมใช้กันมากในการถ่ายภาพบุคคลคือระยะ 85-200mm (แล้วแต่เซ็นเซอร์ของกล้องแต่ละแบบด้วย)
ระยะโฟกัสกับตัวแบบยิ่งเราโฟกัสใกล้แบบมากเท่าไรฉากหลังก็จะละลายมากขึ้นตาม เช่นการโฟกัสถ่ายครึ่งตัวการละลายฉากหลังจะมีผลมาก แต่ถ้าเราโฟกัสถ่ายแบบเต็มตัวการละลายฉากหลังก็จะน้อยลง ถ้าเอาแบบเข้าใจง่ายๆคือถ้าเรายืนใกล้ตัวแบบมากระยะเบลอก็จะมากตาม แต่ถ้าถอยห่างจากตัวแบบระยะเบลอก็จะน้อยตาม
ขนาดเซ็นเซอร์ของกล้องกล้องที่มีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่มากเท่าไร มิติภาพ การละลายฉากหลังก็มีผลมากตาม อย่างเช่นกล้อง DSLR ฟูลเฟรมที่มีขนาดเซ็นเซอร์ 35mm 36x24mm การละลายฉากหลัง มิติภาพย่อมดีกว่ากล้องมิลเลอร์เลสที่มีขนาดเซ็นเซอร์ APS-C 23.6x15.7mm
สุดท้ายการวางแผนในการถ่ายรูปรับปริญญา
ในงานวันรับปริญญา จะมีกำหนดการซ้อมรับปริญญา รายงานตัว ถ่ายรูปหมู่ หรือถ่ายรูปกลุ่มสาขา รวมถึงถ่ายรูปครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนที่มางาน ที่สำคัญก็คือถ่ายรูปเดี่ยวตามสถานที่ต่างๆของมหาวิทยาลัยเก็บไว้เป็นความทรงจำ ถ้าไม่มีการวางแผนตามกำหนดเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ เราอาจจะเก็บภาพสำคัญต่างๆได้ไม่ครบ หากเรามีการนัดจัดการตารางเวลาไว้คงดีที่สุด ว่าเวลานี้ให้ครอบครัว ช่วงเวลานี้ให้เพื่อน ที่เหลือจากนี้ก็ถ่ายรูปเดี่ยว
กำหนดสถานที่การนัดเจอกันก็สำคัญ คงไม่ดีแน่หากไม่มีการนัดสถานที่เจอกัน หากบัณฑิตหรือคนที่มางานต่างเดินหากันและกันในสถานที่มีงานแถมผู้คนมากมากเวลาคงหมดไป ทางที่ดีที่สุดคือกำหนดจุดสถานที่ หากเพื่อนบัณฑิตมาแล้วไม่รู้ว่าจุดนั้นอยู่ตรงไหนให้ถามเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยนั้น หรือน้องๆนักศึกษาที่มาแสดงความยินดีกับพี่บัณฑิตจะดีกว่าที่จะให้บัณฑิตเดินตามหา เพราะบัณฑิตคงเหนื่อยล้าจากการอดนอนรอแต่งหน้าทำผม ซ้อมรับปริญญา
ท้ายที่สุดถ้ามีการจัดการเรื่องเวลา สถานที่นัดเจอให้เป็นไปตามที่กำหนด งานรับปริญญาวันนั้นคงผ่านไปด้วยดี ได้รูปสวยๆกันทุกคน
หากน้องๆบัณฑิตอ่านบทความนี้แล้ว หวังว่าการถ่ายรูปรับปริญญานั้นคงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับบัณฑิตอีกแล้วนะครับ
หากน้องๆกำลังมอง หาช่างภาพรับปริญญา ให้ตัวเองหรือแนะนำบอกต่อเพื่อนๆอย่าลืมนึกถึง nifotoart นะครับ
บทความต่อไปจะมาแนะนำการเตรียมตัว การเลือกช่างภาพ การจ้างช่างภาพว่าควรจ้างวันไหนดี การจัดตารางเวลาต่างๆกันนะครับ
บทความอื่นๆ
แนะนำตัว ช่างภาพรับปริญญา
เล่าสู่กันฟัง ทำไมช่างภาพมืออาชีพต้องพกเลนส์หลายตัว
จ้างช่างภาพรับปริญญาวันไหนดี
เตรียมความพร้อมก่อนงานรับปริญญา
แฟลชแยกช่วยสร้างสรรค์ผลงานในการถ่ายรูปงานรับปริญญา
ช่างภาพรับปริญญา ช่างภาพมืออาชีพ ใจเย็น งานดี แพ็คเก็จสวย ตรงเวลา ส่งงานไว สนใจติดต่อ nifotoart
086-3874674
LINE ID: ni_5516
www.facebook.com/niphotod4s
www.nifotoart.com
ส่วนด้านล่างนี้คือตัวอย่างผลงานรับปริญญาที่ผ่านมาครับ